เมื่อถึงเวลาต้องซ่อมบำรุงรถครั้งใหญ่ นักขับทั้งหลายต่างภาวนาว่าไม่อยากให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเกินไป นั่นคือไม่อยากให้ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ของคุณเกิดความเสียหายในส่วนที่เปราะบางเพราะอะไหล่รถยนต์เหล่านั้นมีราคาสูงมาก วันนี้จะพามาดูอะไหล่รถยนต์ 5 อันดับที่มีราคาแพงแบบที่คนใช้รถต้อง “ปาดเหงื่อ” เมื่อต้องเปลี่ยนหรือซ่อม
1.ชุดกระบอกสูบ
ชุดกระบอกสูบ อะไหล่รถยนต์ชุดแรกที่มีราคาสูงชนิดที่ว่าถ้าต้องซ่อมกันอย่างจริงจังขึ้นมามีหวังหมดตัวได้ง่าย ๆ ก็คือชุดอุปกรณ์กระบอกสูบ หรือ Cylinders แหล่งแห่งการก่อกำเนิดพลังการขับเคลื่อนรถให้พุ่งไปข้างหน้า โดยการเผาไหม้และอัดพลังงานในกระบอกสูบ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของระบบเครื่องยนต์เพื่อการขับเคลื่อนรถนั่นเอง
ปัญหาของกระบอกสูบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบปัญหาใหญ่และปัญหาเล็ก ที่มักจะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ นั่นคือการเฉี่ยวชนกันอย่างรุนแรงจนมีผลต่อกระบอกสูบแตกหรือบิดเบี้ยว ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เจ้าของรถส่วนใหญ่มักยอมขายซากรถทิ้งไปเลยก็มีหากรถมีอายุมากและมูลค่าลดลง เพราะสนนราคาสำหรับการเปลี่ยนกระบอกสูบในแต่ละครั้งมีราคาเทียบเท่ากับการซื้อรถมือสองดี ๆ ซักคันเลยทีเดียว โดยค่าซ่อมอะไหล่รถยนต์ชิ้นนี้มีตั้งแต่ 60,000-100,000 บาทเลยทีเดียว
2.ชุดระบบเกียร์
เสียงดังกึก พร้อมกับรถยนต์ของคุณหยุดกึกไปในทันที นั่นคือสัญญาณบอกให้รู้เลยว่า ระบบเกียร์รถยนต์ของคุณมีปัญหาแล้ว ระบบเกียร์ถือเป็นอีกหนึ่งระบบการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เปรียบเหมือนราชินีของรถก็ว่าได้ มีความสำคัญต่อลงมาจากชุดเครื่องยนต์เลยทีเดียวซึ่งความเสียหายส่วนใหญ่ของระบบเกียร์นั้นมักเกิดจากภาวะที่เรียกว่า “เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย” นั่นคือการขาดการซ่อมบำรุงดูแลอย่างดี เมื่อวัสดุบางตัวเสื่อมสภาพก็ทนใช้งานกันต่อไป หรือเมื่อเกิดความเสียหายอันใดขึ้นมามักเลือกใช้ระบบซ่อมกินตัวที่มีราคาถูกแต่มีผลกระทบตามมาอย่างมาก
เพราะชิ้นส่วนอย่างผ้าใบเกียร์ที่ทนใช้ไปจนหมดสภาพ ทำให้ชุดระบบเกียร์ต้องกระทบเสียดสีกันอย่างหนักจนเกิดเสียงดังทุกครั้งที่เข้าเกียร์ หากไม่รีบแก้ไขโดยด่วนมีหวังได้จ่ายกันหนักระดับ 100,000 บาทขึ้นไปแน่นอน ดังนั้นการเช็กความพร้อมและอะไหล่รถยนต์สำหรับระบบเกียร์ตามรอบจะทำให้ระบบเกียร์ของรถคุณมีประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี
3.ชุดช่วงล่าง
ชุดช่วงล่าง เป็นระบบทำงานหนักอีกส่วนในรถยนต์ คือส่วนที่รับน้ำหนักและแรงกระแทกนานาประการที่กดทับลงมายังชุดช่วงล่างนี้ และชุดช่วงล่างยังคงทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันในส่วนของใต้ท้องรถไม่ให้เกิดความเสียหายอีกด้วย
ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาหนักถึงขนาดชุดช่วงล่างมีภาวะบิดเบี้ยวไป นั่นคือ “ปัญหาใหญ่” ในบริบทแห่งการซ่อม โดยชุดอุปกรณ์ที่ประกอบร่างสร้างตัวรวมกันเป็นชุดช่วงล่างนั้นได้แก่ โช๊คอัพ แหนบรับน้ำหนัก ลูกหมาก และชุดคันส่งต่าง ๆ ซึ่งถ้าใครเคยทำงานขนส่งสินค้าจะรู้เป็นอย่างดีว่าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์เหล่านี้ควรซ่อมบำรุงให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอเพื่องานบรรทุกขนาดหนัก
การเปลี่ยนอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์พื้นฐานเหล่านี้มีมูลค่าสูงถึง 80,000-100,000 บาท โดยเฉพาะในส่วนของโช๊คอัพคุณภาพดีของรถบางรุ่นอาจมีราคาระดับ 100,000 บาทขึ้นไป ยังไม่รวมการซ่อมในระบบอื่น ๆ นั่นหมายความว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อันใดที่ต้องซ่อมช่วงล่างขึ้นมา หมายถึงงบประมาณระดับมหาศาลที่ต้องจ่ายเพื่อการซ่อมบำรุงรถให้กลับมามีสภาพดีดังเดิม
4.ชุดเพลาขับ
อีกหนึ่งชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่หากมีปัญหาขึ้นมาจนเกิดสภาวะบิดเบี้ยวผิดรูปไป ย่อมส่งผลให้การขับขี่ไร้ซึ่งความปลอดภัยและการซ่อมแซมนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก นั่นคือระบบชุดเพลาขับเคลื่อนที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังที่ทอดยาวไปตามขนาดความยาวของตัวถังรถ ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์ที่ส่งคำสั่งต่อการขับเคลื่อนชุดล้อให้วิ่งไปข้างหน้า มีความสัมพันธ์ร่วมกันทั้งระบบเครื่องยนต์และระบบเกียร์ ซึ่งเมื่อมีความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดกับชุดเพลา มักถ่ายทอดต่อยอดปัญหาเพิ่มเติมไปยังระบบเกียร์และอาจพาลไปถึงระบบเครื่องยนต์ได้ โดยการเปลี่ยนชุดเพลาแต่ละครั้ง มักมาพร้อมกับการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ในช่วงล่างด้วย
เพราะความเสียหายที่เกิดจากชุดเพลาโดยส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องของแรงกระแทกเป็นที่ตั้ง เมื่อมีแรงกระแทกขนาดมหาศาลทำให้ชุดเพลาเสียหาย มักส่งผลต่อความเสียหายในรายการอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย โดยการซ่อมแซมชุดเพลานั้นมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ตามแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมไปถึงผลที่สร้างความเสียหายต่อชุดอะไหล่รถยนต์ตัวอื่นอีกด้วยนั่นเอง
5.ชุดเพลาลูกเบี้ยว
อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ถูกละเลย ไม่ได้เอาใจใส่ และถูกมองข้าม นั่นคือ ชุดเพลาลูกเบี้ยวนั่นเอง ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่านักขับรถส่วนใหญ่แทบไม่รู้ถึงอะไหล่รถยนต์ชิ้นนี้ว่าทำงานในระบบไหนอย่างไร ซึ่งชุดเพลาตัวนี้มีหน้าที่กำกับดูแลการเปิดปิดของลิ้นไอเสียและเคลื่อนที่ด้วยเฟืองที่ขบกับเฟืองของเพลาข้อเหวี่ยง
เมื่อใดก็ตามที่มีการขบชนกันของชุดเพลาเหล่านี้ มักก่อให้เกิดความแตกหักเสียหายได้ โดยวิธีการดูแลรักษาอะไหล่รถยนต์ที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดคือการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามวงรอบ ความละเลยเพิกเฉยต่อการดูแลเอาใจใส่อะไหล่รถยนต์ชิ้นนี้อาจทำให้คุณต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินสำหรับการเปลี่ยนชุดเพลาลูกเบี้ยวที่มีมูลค่าระดับครึ่งแสนเลยทีเดียว
สนใจสอบถาม ซื้อ-ขาย รถสือสอง
ติดต่อฝ่ายขาย 02-865-4544หรือ 089-206-6199
ติดต่อฝ่ายรับซื้อ 086-881-8655
หรือสอบถามทาง Line@ : @cheerauto (มี @ ข้างหน้า)
ทีมงาน Cheer Auto ยินดีให้บริการการซื้อขายรถมือสองกับทุกท่าน
