วิธีดูช่วงล่างรถมือสอง มีอะไรบ้างที่คุณต้องรู้? เพราะส่วนนี้ถือว่าเป็นอีกจุดสำคัญในการใช้งานไม่ต่างกับเรื่องของสภาพสี, ตัวถัง, เครื่องยนต์ หรือภายในห้องโดยสาร ที่คุณพิถีพิถันในขั้นตอนเลือกซื้อ ดังนั้นส่วนของช่วงล่างที่ประกอบรวมด้วย ล้อ, ยาง, เบรก หรือ โช๊คอัพ ที่คุณจะต้องเลือกเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยครับ
1.ส่วนของ “ยาง” ถ้าไม่ไหวก็ใช้ต่อรองราคารถได้
ในส่วนของยาง สามารถทำได้โดยตรวจสอบสภาพของเนื้อยางว่าเป็นอย่างไร ดอกยางสึกมากน้อยแค่ไหน ยังพอใช้งานได้อยู่หรือเปล่า ถ้าหากมองว่าสภาพยังพอใช้ได้ ก็ยังต้องไปดูที่เรื่องอายุของยางอีกปัจจัย ซึ่งยางทุกเส้นจะบอกช่วงเวลาที่ทำการผลิต ถ้าอายุของยางนานเกิน 1-2 ปี ก็ไม่ควรใช้งานต่อแล้
2.“ล้อคด ล้อดุ้ง” ต้องดูให้ดี
ส่วนของล้อนี้ไม่มีอะไรมากที่คุณต้องกังวล นอกเสียจาก “อาการล้อคดหรือล้อดุ้ง” ซึ่งคุณสังเกตจากสายตาได้จนถึงตอนที่ทดลองขับ แต่ถ้าจะให้ดีในตอนที่ก้มลงเช็กช่วงล่าง ควรดูที่ส่วนของล้อทั้งสี่สักหน่อยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า จะได้ “ไม่เซ็ง!” หลังจากที่ซื้อรถมาแล้ว
3.เบรกต้องไม่มีรั่วไม่มีซึม ผ้าเบรกหนาเหลือเฟือ
ส่วนสำคัญที่ถ้ามีปัญหาอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ การตรวจสอบจุดนี้เริ่มจากสังเกตุรอยรั่วซึมของน้ำมันเบรกไล่ไปทั้งระบบว่ามีที่จุดไหนหรือไม่ ตั้งแต่หม้อลมเบรกไล่ลงมาถึงปั้มเบรกล่าง ต้องไม่มีคราบน้ำมันให้เห็น เพราะถ้ามีคุณอาจต้องเตรียมจ่ายในการบำรุงรักษาที่ส่วนนี้ทั้งที่ยังใช้รถไปไม่เท่าไหร่ก็ได้ เช่นเดียวกับส่วนของ “ผ้าเบรก” ใช่ว่าแค่พอเบรกอยู่เท่านั้น เพราะเนื้อของผ้าเบรกในรถมือสองคันที่คุณจะซื้อ ต้องเหลือพอสำหรับการใช้งานสักหน่อย ไม่ใช่ตอนทดลองขับเบรกทีเสียงดังเหมือนเหล็กสีกันตลอด แสดงให้เห็นว่าผ้าเบรกของรถ “หมดเกลี้ยงแล้ว” เรียบร้อย
4.ระบบโช๊คอัพ ยังไหวไม่ไหวทดสอบได้
ในรถมือสอง การเช็กว่าโช๊คอัพรั่วซึมสามารถดูได้ด้วยตาเปล่าว่ามีคราบน้ำมันซึมที่กระบอกโช๊คอัพหรือไม่ หรือจะทดสอบการทำงานด้วยการลองกดที่โช๊คแต่ละต้นดู ถ้าลองกดแล้วยุบขึ้นทีเดียวนั่นหมายความว่าโช๊คจุดนั้นยังปกติอยู่ไม่มีปัญหา
